[1189] 3. เนวเสกขานาเสกขธรรม อาศัยเนวเสกขานา-
เสกขธรรม เกิดขึ้น เพราะนอารัมมณปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเนวเสกขานาเสกข-
ธรรม.
ในปฏิสนธิขณะ หทยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย.
มหาภูตรูป ฯลฯ ส่วนอสัญญสัตว์ทั้งหลาย ฯลฯ
[1190] 4. เนวเสกขานาเสกขธรรม อาศัยเสกธรรม และ
เนวเสกขานาเสกขธรรม เกิดขึ้น เพราะนอารัมมณปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นเสกขธรรม และมหาภูตรูป
ทั้งหลาย.
[1191] 5. เนวเสกขานาเสกขธรรม อาศัยอเสกธรรม และ
เนวเสกขานาเสกขธรรม เกิดขึ้น เพราะนอารัมมณปัจจัย
คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ที่เป็นอเสกขธรรม และมหาภูตรูป
ทั้งหลาย.
3. นอธิปติปัจจัย
[1192] 1. เสกขธรรม อาศัยเสกขธรรม ฯลฯ เพราะน-
อธิปติปัจจัย
คือ อธิปติธรรมที่เป็นเสกขธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเสกขธรรม.
2. อเสกขธรรม อาศัยอเสกขธรรม ฯลฯ เพราะน
อธิปติปัจจัย
คือ อธิปติธรรมที่เป็นอเสกขธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอเสกข-
ธรรม.
3. เนวเสกขานาเสกขธรรม อาศัยเนวเสกขานา-
เสกขธรรม เกิดขึ้น เพราะนอธิปติปัจจัย พึงใส่ให้เต็ม.
ปฏิสนธิก็ดี มหาภูตรูปทั้งหลายก็ดี พึงกระทำทั้งหมด.
4. นอนันตรปัจจัย ฯลฯ 9. นปัจฉาชาตปัจจัย
เพราะนอันนตรปัจจัย เพราะนสมนันตรปัจจัย เพราะน
อัญญมัญญปัจจัย เพราะนอุปนิสสยปัจจัย (ทั้ง 4 ปัจจัย มี 5 วาระ)
เพราะนปุเรชาตปัจจัย มี 7 วาระ เหมือนกับกุศลติกะ.
เพราะนปัจฉาชาตปัจจัย ฯลฯ (มี 9 วาระ)
10. นอาเสวนปัจจัย
[1193] 1. เสกขธรรมอาศัยเสกขธรรม เกิดขึ้น เพราะน-
อาเสวนปัจจัย
คือ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นเสกขธรรม ซึ่งเป็นวิปาก ฯลฯ ขันธ์
2 ฯลฯ
2. เนวเสกขานาเสกขธรรม อาศัยเสกขธรรม เกิด
ขึ้น เพราะนอาเสวนปัจจัย